การเลือกใช้สายพานลำเลียง Smart Conveyor / Assembly Lines



-
ความทนทานต่อแรงเฉือน (Tear strength)
ระหว่างการใช้งาน ชั้นของสายพานแต่ละชั้นจะรับแงในการขับเคลื่อนสายพานในปริมาณที่แตกต่างกัน เมื่อสายพานผ่านพู่เลย์ ยางผิวด้นล่างจะเกิดแรงกด ส่วนยางผิวด้านบนจะถูกยืดออก และชั้นของสายท่านแต่ละชั้นก็รับแลง
ไม่ท่กัน ระหว่างชั้นวัสดุแต่ละชั้นของสายพาน จะมีแงเฉืนเกิดขึ้น แรงเขือนดังกล่าวจะกระทำกับแต่ละจุดของสายพานมีลักษณะเป็นรอบ ขาจทำให้กิดปัญหาแยกชั้นของสายพานได้หากแรงยึดของแต่ละชั้นไม่แข็งแรงพอ การ
ทดสอบผลิตภัณฑ์สายพานลำเลียงจึงต้องมีการทดสอบ สมบัติความทนทานต่อแรงเอนของสายพาน เกี่ยวกับการยึดติดระหว่างชั้นสายพานแต่ละชั้น
-
ความหนทานต่อการสิกหรอ (Abrasion Resistance)
สายพานจะเกิดการเสียดสีตลอดเวลาในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะที่ผิวยางด้นบน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับวัสดุที่ต้องการจะลำเลียงวัสดุแต่ละชนิด จะทำให้เกิดการสึกหรอแตกต่างกัน จึงต้องมีการตรวจสอบทุกครั้งในการ
ผลิตสายพานลำเลียง
-
ความทนทานต่อสภาพแวตล้อม (Environmental Resistance)
การใช้งานสายพนลำเลียงมีลักษณที่แตกงกันไป การใช้ในงนกลางแจ้ง ผิวของสายพานที่ใช้จะต้องมีความทนทนต่อแสงยูวี (UV)กซิเจน และโอโซน ซึ่งจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้สายพานเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น การใช้งาน
ที่ต้องสัผักับสารเคมี เช่น น้ำมัน, กดหรือด่าง, เป็นตั้น ผิวของสายพานก็ควรมีสมบัติที่สามารถทนทานต่อสารเคมีเหล่านั้นได้
-
ความหนหานต่อความร้อน (Heat Resistance)